“คต. เผยส่งออกมันสำปะหลัง 6 เดือนหลังดีมานด์ยังพุ่งต่อเนื่อง คาด ปี 65 ส่งออก 11 ล้านตัน 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ” | 1781
กรมการค้าต่างประเทศเผยคาดการณ์ความต้องการมันสำปะหลังช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากอานิสงค์ความต้องการของผู้ซื้อต่างประเทศที่หันมานำเข้ามันสำปะหลังจากไทยทดแทนธัญพืชอื่นๆ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมันสำปะหลังเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น
นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือร่วมกับ 4 สมาคมมันสำปะหลัง คือ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยและสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 และได้คาดการณ์ฤดูกาลผลิตปี 2564/65 ในช่วงครึ่งหลังของปีว่าราคามันสำปะหลังจะพุ่งสูงต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการจากผู้ซื้อต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตลอดจนสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทั่วโลกเพิ่มปริมาณสำรองธัญพืชเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานมีความต้องการนำเข้ามันสำปะหลังทดแทนเพิ่มขึ้น อีกทั้งประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีนยังคงสั่งซื้อมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตแอลกอฮอล์และอาหารสัตว์ทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งราคาอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผลผลิตไม่เพียงพอและราคามันสำปะหลังยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือนกรกฎาคม 2565 หัวมันสดเชื้อแป้ง 25 % ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.15 บาท เพิ่มขึ้น 31.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งออกมันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยในช่วงครึ่งปีแรกของ 2565 (ม.ค. - มิ.ย.) ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ได้แก่ มันเส้นมันอัดเม็ด แป้งดิบ แป้งแปรรูป และ อื่นๆ (กากมัน และสาคู) ปริมาณ 6,753,931.02 ตัน มูลค่า 82,795.11 ล้านบาท โดยมูลค่าเพิ่มขึ้น 35.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายพิทักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการหารือร่วมกับ 4 สมาคมข้างต้น คาดการณ์ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (มันเส้น มันอัดเม็ด แป้งดิบ แป้งแปรรูป) ปี 2565 ทั้งปีจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2564 คิดเป็นปริมาณรวม 11 ล้านตัน มูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (130,000 ล้านบาท) โดยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 คาดว่าจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวมได้เพิ่มขึ้นปริมาณ 4.25 ล้านตัน มูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (47,000 ล้านบาท) โดยส่งออกมันเส้นและแป้งมันได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปีทองของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยที่คาดว่าจะสามารถทำนิวไฮสูงสุดในรอบ 15 ปี”
นอกจากนี้ ผู้ซื้อจากต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อนำไปผลิตอาหารสัตว์ เช่น ตุรกี นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบียและจีนตอนใต้ เป็นต้น ยังคงสนใจสั่งซื้อมันสำปะหลังของไทยทดแทนธัญพืชที่มีราคาสูง เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ซื้อว่าไทยสามารถจัดหาวัตถุดิบมันสำปะหลังให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ ตลอดจนสร้างงาน สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป
เอกสารแนบ